จะดีมั้ยนะ? ถ้าเราหันมาปลูกผักกินเอง.. ถ้าได้ลองทำแล้วจะรู้ว่าไม่ยากอย่างที่คิด.. ในโอกาสนี้ขอแนะนำการปลูกผักไร้ดินแบบไฮโดรโปนิกส์...
การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์เข้ามาสู่ประเทศไทยเมื่อประมาณ 10 ปีมาแล้ว โดยชาวไต้หวัน นำเข้ามาแนะนำให้ผู้ประกอบการคนไทยทำเป็นการค้าที่เรียกว่า "ผักลอยฟ้า"
ปัญหาของการปลูกพืชในดิน ซึ่งมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและวัชพืช รวมทั้งเชื้อโรคพืชที่อาศัยอยู่ในดิน ทำให้เกิดสารพิษตกค้างในผลผลิตเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและตัวเกษตรกรผู้ปลูก นอกจากนี้การปลูกพืชในดินยังต้องใช้น้ำมาก
การปลูกพืชในดินต้องมีการเตรียมดิน ปรับสภาพดิน และต้องใช้ปุ๋ยเคมีสูตรต่าง ๆ ตามอายุพืช "ไฮโดรโปนิกส์" จึงเป็นระบบการปลูกพืชที่เข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าว วิธีที่ง่ายและสะดวก เป็นที่นิยมกันมี 2 วิธี คือ
วิธีการปลูกพืชไร้ดิน
- การปลูกพืชในสารละลายแบบไม่ไหลเวียน เป็นการปลูกแบบให้รากแช่อยู่ในสารละลายธาตุอาหารที่มีเครื่องพ่นอากาศ เป่าอากาศลงในสารละลายนั้น การปลูกในระบบนี้เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายมาก เหมาะสำหรับปลูกในครัวเรือน เป็นงานอดิเรก หรือเป็นงานทดลองภาชนะที่ปลูกอาจจะเป็นภาชนะเดี่ยวหรือเป็นกระบะรวม
- การปลูกในสารละลายแบบไหลเวียน (Nutrient Flow Tecnnique หรือ NFT) เป็นวิธีให้รากแช่อยู่ในสารละลายที่ไหลเวียนภายในภาชนะปลูกรวม โดยใช้ปั๊มทำการผลักดันให้สารละลายเกิดการไหลเวียน
ข้อดีของการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
สามารถลดการใช้น้ำได้ 98%
สามารถลดปริมาณปุ๋ยเคมี ได้ 95%
สามารถลดปริมาณสารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรูพืชได้ 99%
สามารถเพิ่มผลผลิตในแต่ละรอบการเพาะปลูกได้ 45%
ได้ผลผลิตที่สะอาด
เป็นยังไงบ้างเอ่ย..? เราทำความรู้จักกับไฮโดรโปนิกพอสมควรแล้ว.. ไว้คราวหน้าจะมาเรียนรู้วิธีปลูกกันนะ.. ขอบคุณวัตถุดิบดีดี ที่นี่จ้า
หากท่านใดที่มีสวนสวย ไม่อยากเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว ท่านสามารถติดต่อมายังทีมงาน ส่งภาพสวนสวยของท่านมาที่ gentech999@gmail.com
ทางทีมงานมีของกำนัลเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่เจ้าของสวนที่นำมาแบ่งบันไอเดีย..
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจ้า..
...
1 comments:
น่าลองปลูกจังเลยเป็นไอเดียที่เก๋กู๊ดมักๆ
Post a Comment